วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วันวิสาขบูชา 2556 วัดกระบังมังคลาราม

วันวิสาขบูชา 2556 วัดกระบังมังคลาราม

              วันวิสาขบูชา 2556 ตรงกับวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม ในปีนี้นับเป็นอภิลักขิตกาลพิเศษ คือเป็นปีที่ครบ 2,600 พุทธศตวรรษ หรือ 2,600 ปี แห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา และเชื่อว่าทุกคนรู้จักชื่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างวันวิสาขบูชากันดีอยู่แล้ว ......
             วัดกระบังมังคลาราม จัดกิจกรรมวันวิสาขบูชา ดั้งนี้..

1.กิจกรรม   ทำบุญตักบาตร
2.กิจกรรม   ฟังพระธรรมเทศนา
3.กิจกรรม   เวียนเทียน  
            มีชาวพุทธวัดกระบังมังคลาราม ร่วมทำบุญวันวิสาขบูชา ประมาณ 500 คน


ภาพกิจกรรม ฟังพระธรรมเทศนา


ผ้าป่าวันวิสาขบูชา

ภาพกิจกรรม นักเรียนทำกิจกรรมเวียนเทียน



 กิจกรรมเวียนเทียน เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดกระบังมังคลาราม








ทอดผ้าป่าลานโพธิ์ วัดกระบังมังคลาราม

ทอดผ้าป่าลานโพธิ์ วัดกระบังมังคลาราม

วัดกระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม  จังหวัดพิษณุโลก  ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าลานโพธิ์  ในวันพุธที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕  (ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ  เดือน ๑๒) เวลา ๑๖.๓๐ น. ทางวัดได้จัดให้มีการเจริญพุทธมนต์เสริมดวงชะตาให้พุทธศาสนิกชน จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าลานโพธิ์บูชาพระประจำวันเกิดเพื่อเสริมดวงเกิดให้แข็งแรงและขจัดเคราะห์ภัยทั้งปวง โดยพร้อมเพรียงกัน ณ ลานโพธิ์วัดกระบังมังคลาราม.
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งได้สถิตอยู่ในสากลโลกนี้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว  จงมีแต่ความสุข     ความเจริญ    ปราศจากโรคาภัยทั้งหลายทั้งปวง   ด้วยอายุ   วรรณะ   สุขะ   พละ   ตลอดไปเทอญ.


ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย













พระประจำวันเกิด



พระประจำวันอาทิตย์ ได้แก่ ปางถวายเนตร

           ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปที่อยู่ในพระอริยาบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองเพ่งไปข้างหน้า พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงมาประสานกันอยู่ระหว่างพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนเหลื่อมพระหัตถ์ซ้าย อยู่ในพระอาการสังวรทอดพระเนตรดูต้นพระศรีมหาโพธิ์




พระประจำวันจันทร์ ได้แก่ ปางห้ามญาติ หรือ ห้ามสมุทร

           ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้าเป็นกิริยาห้าม เป็นปางเดียวกันกับปางห้ามสมุทร ต่างกันตรงที่ปางห้ามญาติจะยกมือขวาขึ้นห้ามเพียงมือเดียว ส่วนปางห้ามสมุทร จะยกมือทั้งสองขึ้นห้าม แต่ส่วนใหญ่มักจะนิยมสร้างเป็นปางห้ามญาติ และนิยมทำเป็นแบบพระทรงเครื่อง





พระประจำวันอังคาร ได้แก่ ปางโปรดอสุรินทราหู หรือ ปางไสยาสน์ หรือ ปางปรินิพพาน
 
           ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้)


 พระประจำวันพุธ (กลางวัน) ได้แก่ ปางอุ้มบาตร  
   
 ลักษณะพระพุทธรูป พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประคองบาตรราวสะเอว


พระประจำวันพฤหัสบดี ได้แก่ ปางสมาธิ หรือ ปางตรัสรู้   

           ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ (แข้ง) ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย



 พระประจำวันศุกร์ ได้แก่ ปางรำพึง   
    
          ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถืขวาทับพระหัตถ์ซ้าย


พระประจำวันเสาร์ ได้แก่ ปางนาคปรก     
          ลักษณะพระพุทธรูป : พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ หงายพระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้ายเหมือนปางสมาธิ แต่มีพญานาคขนดร่างเป็นวงกลมเป็นพุทธบัลลังก์และแผ่พังพานปกคลุมอยู่เหนือพระเศียร







http://hilight.kapook.com/view/27407

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สลากภัต วัดกระบังมังคลาราม

สลากภัต 
กระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก



               ด้วยทางวัดกระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม  จังหวัดพิษณุโลก  ได้จัดให้มีการถวายสลากภัตขึ้น  ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖  (ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ  เดือน ๖) เวลา ๑๐.๔๐ น. เพื่อถวายสลากภัตแด่พระภิกษุสงฆ์ทั่วไป  ไม่ได้จำเพราะเจาะจงแก่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมเป็นเจ้าภาพถวายสลากภัตโดยพร้อมเพรียงกัน ณ ศาลาการเปรียญหลังใหญ่.
              ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งได้สถิตอยู่ในสากลโลกนี้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว  จงมีแต่ความสุข     ความเจริญ    ปราศจากโรคาภัยทั้งหลายทั้งปวง   ด้วยอายุ   วรรณะ   สุขะ   พละ   ตลอดไปเทอญ.



สลากภัต (บาลีสลากภตฺต) เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎก เป็นชื่อเรียกวิธีถวายทานแก่พระสงฆ์วิธีหนึ่ง โดยการจับสลากเพื่อแจกภัตตาหารหรือปัจจัยวัตถุที่ได้รับจากผู้ศรัทธาถวาย เพื่ออนุเคราะห์แก่ผู้ศรัทธาที่มีปัจจัยวัตถุจำกัดและไม่สามารถถวายแก่พระสงฆ์ทั้งหมดได้
โดยสลากภัตนับเนื่องในสังฆทานที่มีอานิสงส์มาก เพราะถือว่าแม้จะตั้งสลากถวายกับพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่จับสลากได้ ย่อมเท่ากับถวายกับพระสงฆ์ทั้งหมด เพราะสลากที่จับนั้นพระสงฆ์ทุกรูปในอารามนั้นมีสิทธิ์ได้ นอกจากนั้นสลากภัตยังเป็นหลักการในพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้เพื่อสร้างจิตสำนึกความเท่าเทียมกันและสร้างความเป็นอันหนึ่งเดียวกันแก่คณะสงฆ์
ในประเทศไทย มีประเพณีสลากภัต ภาคเหนือเรียกว่า ประเพณีทานก๋วยสลาก ตามวัดต่าง ๆ โดยจัดในช่วงเดือน 6 จนถึงเดือน 8 ซึ่งเป็นช่วงผลไม้อุดมสมบูรณ์ โดยมีการรวมตัวของคณะศรัทธาทั้งหมู่บ้านนำผลไม้และสำรับคาวหวานไปตั้งเป็นสลากถวายพระภิกษุที่นิมนต์มาจากวัดต่าง ๆ เป็นประเพณีใหญ่สำหรับหมู่บ้านและวัดนั้น ๆ โดยในแต่ละภูมิภาคมีรายละเอียดการจัดประเพณีแตกต่างกันไป



พระภิกษูรับสลากภัต จากโยมชาวพุทธวัดกระับังมังคลาราม










        เล่าเรื่อง........... อ่านแล้วเห็นธรรมกันบ้างใหม...............?

            ในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับ ณ พระเชตะวันมหาวิหารนั้น วันหนึ่งนางกุมารีผู้หนึ่งได้อุ้มลูกชายวิ่งหนีนางยักขินีผู้มีเวรต่อกัน หลายชาติแล้ว ติดตามมาจะทำร้ายลูกของนาง นางเห็นจวนตัวจะวิ่งหนีไปที่อื่นไม่ได้ จึงพาลูกวิ่งเข้าไปในพระเชตวัน เข้าไปในพระวิหารขณะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่ นางเอาลูกน้อยวางแทบพระบาทแล้วกราบทูลว่า “ ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญ ขอทรงโปรดเป็นที่พึ่งแก่ลูกชายของหม่อมฉันเถิดพระเจ้าข้า ” พระพุทธเจ้าหยุดพฤติกรรมที่จองเวรของนางกุมาริกา และนางยักษ์ขินีด้วยการตรัสคำสอนว่า เวรย่อมไม่ระงับด้วยเวร เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ธรรมนี้เป็นของโบราณ” แล้วทรงให้นางทั้งสองเห็นผิดชอบชั่วดี นางยักษ์ขินีรับศีล ๕ แล้วนางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น กราบทูลพระพุทธเจ้าว่านางไม่รู้จะไปทำมาหากินอย่างไรเพราะรักษาศีลเสียแล้ว นางกุมาริกาจึงรับอาสาจะพานางไปอยู่ด้วย นางได้รับอุปการะจากนางกุมาริกาหลายประการ นึกถึงอุปการะอยากจะตอบแทนบุญคุณ จึงเป็นผู้พยากรณ์บอกกล่าวเรื่อง อุตุนิยมวิทยา คือ บอกให้นางกุมาริกาทำนาในที่ดอนในปีฝนมาก ทำนาในที่ลุ่มในเวลาฝนแล้ง นางกุมาริกาได้ปฏิบัติตามทำให้ฐานะร่ำรวยขึ้นยิ่งกว่าคนอื่น ๆ ในระแวกนั้น คนทั้งหลายมีความสงสัยจึงมาถามหานางกุมาริกาว่าเป็นอย่างไร ได้รับคำตอบว่า นางยักษ์ขินีเป็นผู้บอกกล่าวให้ คนทั้งหลายจึงพากันไปหานางขอบอกให้อย่างเดียวกับนางกุมาริกา คนทั้งหลายได้รับอุปการะจากนางยักษ์ขินีจนมีฐานะร่ำรวยไปตาม ๆ กัน ด้วยความสำนึกในบุญคุณ จึงพากันนำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคอาหารการกินเครื่องใช้สังเวยอยู่เป็นอัน มาก ข้าวของที่สำนักนางยักษ์ขินีจึงมีมากเหลือกินเหลือใช้ นางจึงนำมาทำเป็นสลากภัตร โดยให้พระสงฆ์กระทำการจับตามเบอร์ด้วยหลักของอุปโลกนกรรม คือ ของที่ถวายมีทั้งของมีราคามาก ราคาน้อย พระสงฆ์องค์ใดได้ของมีค่าน้อยก็อย่าเสียใจ ให้ถือว่าเป็นโชคของตนดีหรือไม่ดี การถวายแบบจับสลากของนางยักษ์ขินีนี้นับเป็นครั้งแรกแห่งประเพณีทำบุญสลาก ภัตร หรือทานสลากในพระพุทธศาสนา