วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประวัติวัดกระบังมังคลาราม



ประวัติวัดกระบังมังคลาราม

ที่ตั้งวัด
            ตั้งอยู่เลขที่ ๒๗ บ้านกระบัง หมู่ที่ ๒ ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ภาค ๕  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
             ลักษณะที่วัดเป็นราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย เส้นทางหลวงสายพิษณุโลก - วัดโบสถ์ ที่ดินของวัดเป็นโฉนดเลขที่  ๔๐๗๒   เป็นหลักฐาน   เนื้อที่ดิน  ๔๐  ไร่  ๗๙  ตารางวา     อาณาเขตทิศเหนือติดแม่น้ำแควน้อย ทิศใต้ติดต่อกับที่ดินเลขที่  ๔  ทิศตะวันออกติดต่อกับทางสาธารณะ ทิศตะวันตกติดกับที่ดินเลขที่ ๔

ความเป็นมา
              วัดกระบังมังคลาราม    สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ  พ.ศ.  2455    ขึ้นทะเบียนวัดไว้แล้วประชาชนทั่วไปมักเรียกสั้น ๆ ว่า  "วัดกระบัง"  ตามชื่อหมู่บ้าน   ภายในที่ดินของวัดเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดกระบังมังคลาราม (พิศาลประชาสรรค์)

อาคารเสนาสนะ
     ๑) ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๓๕ เมตร สร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นไม้
     ๒) หอสวดมนต์ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๘ เมตร สร้างด้วยไม้
     ๓) กุฏิสงฆ์ จำนวน ๗ หลัง
     ๔) อุโบสถ
     ๕) เมรุ
     ๖) โรงเรียนปริยัติธรรม
     ๗) ตึกหลวงพ่อพิศาลธรรมภาณี
     ๘) ศาลาธรรมสังเวช
     ๙) กุฏิเจ้าอาวาส (พระครูสุมณฑ์ธรรมกิจ)
     ๑๐) ศาลาธรรมสังเวช
     ๑๑) ศาลาธรรมปฏิบัติธรรม ๑ หลัง
รายนามเจ้าอาวาส (ที่สามารถสืบค้นได้)
     ๑. หลวงพ่ออ้น
     ๒. หลวงตาเก๊า
     ๓. หลวงตาเกิด
     ๔. หลวงตาเชย
     ๕. พระครูน้อย
     ๖. พระอาจารย์โอ
     ๗. หลวงตาขำ
     ๘. พระมหาเฉื่อย
     ๙. พระพิศาลธรรมภาณี (เชื้อ) อดีตเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๕
     ๑๐. หลวงตาแจง
     ๑๑. พระอธิการสำราญ ขนฺติธโร เจ้าอาวาส
     ๑๒. พระอาจารย์อุดมศักดิ์ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส
     ๑๓. พระจำลอง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส
     ๑๔. พระอธิการเฉื่อย ปญฺญาวุฑฺโฒ เจ้าอาวาส
     ๑๕. พระมหาเฉลียว ฐิตวณฺโณ เจ้าอาวาส
     ๑๖. พระครูสุมณฑ์ธรรมกิจ (เอนก จนฺทโก) พ.ศ.2544 - ปัจจุบัน
           ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม
ประวัติ หลวงพ่อเจ้าคุณพระพิศาลธรรมภาณี
นามเดิม เชื้อ นามสกุล สุขม่วง
เกิดที่บ้านหอกลอง หมู่ที่ ๑ ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
บิดาชื่อ นายบาง
มารดาชื่อ นางฝอย
เกิดวันเสาร์ ขึ้น ๓ ค่ำ ปีมะเส็ง วันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๘ มีพี่น้องรวม ๗ คน คือ
      ๑. นางผูก มั่นคง
      ๒. นางชื้น โพธิปาน
      ๓. พระพิศาลธรรมภาณี (เชื่อ สุขม่วง)
      ๔. นายสาย สุขม่วง
      ๕. นางแฉล้ม ถนอมวงค์
      ๖. นางเงิน หนูไทย
      ๗. นางทอง คำหมู่
      อายุ ๘ ขวบ เข้าเรียนภาษาไทย ที่โรงเรียนประชาบาลวัดกระบังมังคลาราม เรียนจบชั้น ป.๔
      อายุ ๑๘ ได้บรรพชา ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มี พระวรญาณมุนี (พร้อม นิลพงษ์) เป็นพระอุปัชฌาย์
ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ สอบ น.ธ. ตรี ได้ ไปเรียนพระปริยัติธรรมต่อที่วัดอนงคาราม ธนบุรี(กรุงเทพมหานคร)
อุปสมบท อายุ ๒๑ ปี เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๖๙ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ พัทธสีมาวัดพระศรี
รัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมี พระวรญาณมุนี เป็นอุปัชฌาย์ พระครูอนุโยคศาสนกิจ (รอด) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดชั้น เป็นอนุสาวนาจารย์
      พ.ศ.๒๔๗๔ เป็นเจ้าอาวาสวัดกระบังมังคลาราม
      พ.ศ.๒๔๗๖ เป็นเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม
      พ.ศ.๒๔๘๕ เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูเมธาประยุต และเป็นพระอุปัชฌาย์
      พ.ศ.๒๔๙๗ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระพิศาลธรรมภาณี
หลวงพ่อเจ้าคุณพระพิศาลธรรมภาณี (เชื้อ สุธมฺโม) มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๒๐
รวมอายุ ๗๓ ปี ๕๓ พรรษา รวมอุปสมบทบรรพชา ๕๖ พรรษา
หลวงพ่อเจ้าคุณพระพิศาลธรรมภาณี อดีตเจ้าอาวาสวัดกระบังมังคลาราม และเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม ท่านใช้หลักการปกครอง ๔ อย่าง คือ ๑. การศึกษา ๒. ซ่อม ๓. สร้าง ๔. รักษา ในสมัยที่ท่านได้รับหน้าที่ปกครองวัดกระบังมังคลาราม ท่านได้เน้นการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ ได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรม ในวัดกระบังมังคลาราม ทั้งนักธรรม และบาลี ท่านเป็นเจ้าสำนักเรียน มีลูกศิษย์มากมายที่ได้ดีจากวัดกระบังมังคลาราม เป็นใหญ่เป็นโต จากการสั่งสอนของหลางพ่อเจ้าคุณพระพิศาลธรรมภาณี ความประพฤติส่วนตัว ยินดีในเนกขัมมปฏิบัติ ท่านเป็นอุตตสัมมาปณิธิบุคคล ตั้งตนไว้ชอบตลอดมา ท่านเคร่งครัด เป็นพระเคารพวินัย สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ถึงพร้อมด้วยศลี มีมารยาทและโคจรดีงาม เป็นสงฆ์ทรงศลี มีศลีเป็นที่รัก พุทธบริษัทคารวะ ควรเชิดชูเป็นอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยศีลไว้ว่า "ภิกฺขุ จ สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขูนญฺจ ธนํ สีลํ" ภิกขุถึงพร้อมด้วยศีล ภิกษุมีศีลเป็นทรัพย์ เป็นสังฆโสภณ ยังหมู่คณะให้งาม แม้ท่านจะเป็นพระธรรมกถึกที่มีชื่อเสียงโงดังท่านก็ไม่ประมาท ท่านติตัวของท่านเองเอาไว้ว่า "คนแจวเรือจ้าง ดีแต่ส่งคนอื่นให้ขึ้นฝั่ง ตัวของตัวขึ้นฝั่งไม่ได้ พวกทัพพีไม่รู้รสแกง พวกใบลานเปล่า เที่ยวเทศน์สั่งสอนเขานั้น ก็เท่ากับประจารตัวเอง" ท่านเป็นพระอ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น ไม่ประมาท ไม่อยู่ปราศจากประโยชน์ บำเพ็ญประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท นั้นแล เป็นสาระแห่งชีวิต บัณฑิตย่อมสรรเสริญ เกียรติคุณย่อมไม่ละบุคคลนั้น เป็นพหูสูตรมีอรรภธรรมได้สดับมากประกอบด้วยศีลาจารวัตร สถิตในธรรม บุคคลที่มีความประพฤติไม่บกพร่อง ประกอบไปด้วยปัญญาและศีลบริสุทธิ์ดุจแท่งทองชมพูนุท ใครจะนินทาท่านได้ แม้เทวดา แม้พรหมก็ย่อมสรรเสริญ

ประวัติหลวงพ่อพระพุทธวงศ์
(พระประธานในอุโบสถ )
     หลวงพ่อพระพุทธวงศ์เป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ที่มีลักษณะงดงาม คล้ายพระพุทธชินราช มีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๕.๖ นิ้ว ( ๒.๖๔เมตร) สูง ๖ ศอก (๒.๙๙ เมตร) ปูนปั้น ปิดทองเป็นครั้ง ๓ ครั้งๆล้าสุดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐
พระพุทธวงศ์ประดิษฐานอยู่ ณ อุโบสถวัดกระบังมังคลาราม องค์พระนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงายพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันออก มีซุ้มเรือนแก้วลงรักปิดทอง
     มีประชาชนตำบลหอกลอง และตำบลรอบๆ ช่วยกันสร้างหลวงพ่อพุทธวงศ์ประดิษฐานในอุโบสถวัดกระบังมังคลาราม
ประวัติพระครูสุมณฑ์ธรรมกิจ (เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน)
ชื่อ พระครูสุมณฑ์ธรรมกิจ ฉายา จนฺทโก อายุ ๕๐ พรรษา ๒๔ วิทยฐานะ น.ธ.เอก , พธ.บ.
วัดกระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก รหัสไปรษณีย์ ๖๕๑๕๐
โทร. ๐๕๕ ๒๙๙๗๓๒ , ๐๘๖ ๙๒๕๔๗๗๗ , ๐๘๓ ๕๑๘๐๐๔๐ , ๐๘๓ ๕๑๘๐๐๕๐
๑. สถานะเดิม ชื่อ เอนก นามสกุล ถิ่นหลักร้อย เกิดวัน ๒๕ฯ ๘.๘ ค่ำ ปี จอ
วันจันทร์ที่ ๒๑ เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๑ ณ บ้านเลขที่ ๑๓๙
หมู่ที่ ๖ ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
บิดา ชื่อ นายสำราญ นามสกุล ถิ่นหลักร้อย
มารดา ชื่อ นางเนียม นามสกุล ถิ่นหลักร้อย
๒. อุปสมบท เมื่ออายุ ๒๗ ปี วัน ๗ ๑๑ฯ ๘.๘ ค่ำ ปี ฉลู วันเสาร์ที่ ๒๗ เดือน กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๕๒๘ ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบล
ในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก พระอุปัชฌาย์ ชื่อ พระราชรัตนรังษี (ทองปลิว โสรโต) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
พระกรรมวาจาจารย์ ชื่อ พระมหาสว่าง กตปุญฺโญ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
พระอนุสาวนาจารย์ ชื่อ พระมหาชมภู ชุตินฺธโร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
๓. หน้าที่การงาน พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นเจ้าคณะตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม
จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสันติกาวาส ตำบลวงฆ้อง
อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นเจ้าอาวาสวัดกระบังมังคลาราม ตำบลหอกลอง
อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
๕. สมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็น พระสมุห์ ฐานานุกรมของ พระครูสถิตวีรธรรม
เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็น พระปลัด ฐานานุกรมของ พระครูสถิตวีรธรรม
เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนาม
ที่ พระครูสุมณฑ์ธรรมกิจ (จต.ชต.)
พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็น พระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท (รจอ.ชท.)
ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็น พระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก (รจอ.ชอ.)
ในราชทินนามเดิม
วัดกระบังมังคลาราม ปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๑ มีผู้ช่วยเจ้าอาวาส ๒ รูป คือ
๑. พระครูประภากรกิจมงคล (ละมูล ปภากโร)
๒. พระครูสังฆรักษ์ อุดม ฐิติสมฺปนฺโน

ปัจจุบันวัดกระบังมังคลาราม มีพระภิกษุ - สามเณร จำนวน ๓๐ รูป
วัดกระบังมังคลาราม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น